Offer Categories: บัตรเครดิต

เงินเดือน
70,000 บาทขึ้นไป
ดอกเบี้ย
สูงสุด 16% ต่อปี
วงเงิน
ไม่เกิน 5 เท่าของรายได้
บัตรเครดิต uob privimile ตอบโจทย์นักธุรกิจหรือผู้มีฐานเงินเดือนสูง
เงินเดือน
ไม่กำหนดรายได้
ดอกเบี้ย
ไม่กำหนดดอกเบี้ย
วงเงิน
ไม่กำหนดวงเงิน
บัตร fleet card คิดดอกเบี้ยถูก แถมเงินเดือนน้อยก็ทำได้
เงินเดือน
ไม่กำหนดรายได้
ดอกเบี้ย
ไม่กำหนดดอกเบี้ย
วงเงิน
ไม่กำหนดวงเงิน
fleet card kbank เปิดบัตรง่ายๆ ค่าธรรมเนียมไม่แพง
เงินเดือน
15,000 บาทขึ้นไป
ดอกเบี้ย
สูงสุด 16% ต่อปี
วงเงิน
ไม่เกิน 5 เท่าของรายได้
ptt blue credit card สมัครวันนี้สะสมแต้มได้ทุกที่
เงินเดือน
15,000 บาทขึ้นไป
ดอกเบี้ย
สูงสุด 18% ต่อปี
วงเงิน
ไม่เกิน 5 เท่าของรายได้
บัตร scb king power มาพร้อมลวดลายที่สวยมาก
เงินเดือน
15,000 บาทขึ้นไป
ดอกเบี้ย
สูงสุด 16% ต่อปี
วงเงิน
ไม่เกิน 5 เท่าของรายได้
บัตร ptt blue credit card บัตรสำหรับผู้เติมน้ำมัน
เงินเดือน
15,000 บาทขึ้นไป
ดอกเบี้ย
สูงสุด 16% ต่อปี
วงเงิน
ไม่เกิน 5 เท่าของรายได้
ktc platinum jcb ผ่อนของวันนี้ดอกเบี้ยคิดเพียง 0%
เงินเดือน
50,000 บาทขึ้นไป
ดอกเบี้ย
สูงสุด 16% ต่อปี
วงเงิน
ไม่เกิน 5 เท่าของรายได้
บัตร ktc jcb ultimate ให้วงเงินสูง และดอกเบี้ยถูกมาก
เงินเดือน
15,000 บาทขึ้นไป
ดอกเบี้ย
สูงสุด 16% ต่อปี
วงเงิน
ไม่เกิน 5 เท่าของรายได้
บัตร citi reward มาพร้อมแต้มใช้แลกสิทธิ์ต่างๆ ได้จริง
เงินเดือน
15,000 บาทขึ้นไป
ดอกเบี้ย
สูงสุด 16% ต่อปี
วงเงิน
ไม่เกิน 5 เท่าของรายได้
บัตรเครดิต ktc platinum ทำง่ายๆ ผ่านแอพ Krungthai Next

มาทำความรู้จักกันเถอะว่าการมีบัตรเครดิต คืออะไรทำอะไรได้บ้าง

เวลาที่เราไปจ่ายเงินสดซื้อของตามห้างเราเคยเห็นคนที่เรายืนต่อคิวด้านหน้าเราแล้วเลือกจ่ายค่าสินค้าด้วยบัตรเครดิตกันไหม แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้หยิบเงินสดขึ้นมาซักใบแต่ก็สามารถจับจ่ายใช้สอยได้ตามปกติเหมือนกันกับเรา การใช้บัตรเครดิตในการจ่ายแทนเงินสดก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คนเลือกใช้ แล้วบัตรเครดิต คืออะไรก็คือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ที่ช่วยเอื้อความสะดวกในการจ่ายให้กับผู้ถือบัตร ในระยะหลังก็เริ่มมีสถาบันทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารเข้ามาเป็นอีกทางเลือกให้กับคนที่ต้องการทําบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น พร้อมมอบสิทธิประโยชน์ที่มากกว่าให้ทุกการจับจ่าย เพื่อให้ผู้ถือบัตรสามารถสะสมคะแนนในแต้มบัตรเครดิตไม่เสียค่าธรรมเนียมรายปีเพื่อใช้แลกของรางวัลตามที่บริษัทกำหนดได้ จึงทำให้การจ่ายค่าสินค้าและบริการด้วยบัตรเครดิตมีความพิเศษขึ้น ถ้าถามว่าบัตรเครดิตที่ดีที่สุดมีไหมก็ต้องตอบเลยว่าไม่สามารถเปรียบเทียบเจ้านั้นเจ้านี้ดีกว่ากัน เพราะเป็นเรื่องของความชื่นชอบและลักษณะการใช้บัตรเครดิตแบบไหนที่จะเหมาะสมสำหรับทุกค่าใช้จ่ายของเรามากกว่ากัน นอกจากไม่สามารถเปรียบเทียบบัตรไหนดีกว่ากันได้แล้ว ยังไม่อาจจะนำการจ่ายด้วยเงินสดไปเปรียบเทียบบัตรเครดิตได้อีกซึ่งบางคนก็ชอบจ่ายด้วยเงินสดมากกว่าเพราะรู้สึกสะดวกใจคนละแบบ บัตรเครดิตจึงเหมาะสำหรับการเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการจ่ายเพื่อซื้อสินค้านั่นเอง

เพื่อชีวิตที่ง่ายขึ้นใช้บัตรเครดิตในการซื้อของดีกว่าอย่างไร

ในการซื้อสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ด้วยบัตรเครดิตนั้นจะเกิดคุณค่าก็ต่อเมื่อเราใช้บัตรบ่อย ๆ ถ้าหากเราจำเป็นต้องเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นประจำ การซื้อตั๋วเครื่องบินด้วยบัตรเครดิตก็ย่อมดีกว่าตรงที่ทุกค่าใช้จ่ายที่เราจ่ายเงินซื้อตั๋วไปนั้นจะถูกนำมาเก็บไว้ในบัตรเครดิตสะสมแต้มสำหรับนำแต้มไปใช้ประโยชน์ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นส่วนลด, เงินคืน2%, ของรางวัลที่แลกได้และสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมายแล้วแต่โปรบัตรเครดิตที่ทางบริษัทได้กำหนดออกมา ซึ่งถือได้ว่าการใช้บัตรในปี 2023 นี้มอบความสะดวกให้อย่างมากเลยทีเดียวเพราะมีประเภทบัตรเครดิตตามสไตล์ที่เราต้องการให้เลือกใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิตผ่อน 0 % นานสูงสุด 10 เดือน ช่วยให้เราไม่ต้องจ่ายเงินก้อนทำให้เรารักษาสภาพคล่องของเงินที่เราถือเอาไว้ ให้เราสามารถนำเงินก้อนนั้นไปใช้ลงทุนให้งอกเงยก่อนได้ หรือบางคนก็สามารถซื้อของในราคาที่สูงเกินกว่าเงินสดที่มีได้อย่างง่ายดาย แล้วยังได้รับสิทธิพิเศษที่ทางบัตรมอบให้อีกด้วย

ถ้าเราอยากหาบัตรเครดิตมาใช้จะมีวิธีในการเลือกแบบไหน

หากเราเป็นคนหนึ่งที่อยากจะลองอะไรใหม่ ๆ ให้กับการใช้จ่ายของเราในปี 2023 นี้ก็ต้องบอกเลยว่าบัตรเครดิตนั้นมีให้เราเลือกสมัครหลายแบบอย่าง 1.Visa ที่สามารถจับจ่ายใช้สอยได้ครอบคลุมทั้งร้านค้าและบริการต่าง ๆ กว่า 200 ประเทศทั่วโลก, 2.Mastercard บัตรเครดิตออนไลน์ที่มีร้านค้ารับรองมากกว่าแบบบัตรวีซ่า ทำให้มั่นใจในการช้อปปิ้งมากกว่า, 3.JCB ช่วยให้คนไทยสามารถใช้จ่ายในประเทศญี่ปุ่นได้ดียิ่งขึ้น ตั้งแต่การจองที่พัก, จองตั๋วเครื่องบิน, การซื้อสินค้าภายในประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะและแบบ 4.UnionPay จากประเทศจีน เหมาะสำหรับนำไปใช้ที่จีน , มาเก๊า, ไต้หวัน, ฮ่องกงทำให้เราสามารถซื้อสินค้าออนไลน์ด้วยสกุลเงินประเทศเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีประเภทบัตรเครดิตที่เราต้องรู้จักดังนี้ตามขอบเขตการใช้จ่าย 3 ประเภทดังนี้ 1.บัตรที่สามารถใช้ได้ทั้งในและต่างประเทศ (International Credit Card) 2.บัตรที่สามารถใช้ได้เฉพาะภายในประเทศเท่านั้น (Local Credit Card) 3. บัตรที่ทำออกมาให้ใช้เฉพาะภายในร้าน (Store Card หรือ Private Label Card) เมื่อเรารู้จักประเภทของบัตรเครดิตมากขึ้นแล้วก็จะทำให้เราสามารถเลือกได้ว่าจะทำบัตรเครดิตธนาคารไหนดี 2566 ที่จะเข้ากับไลฟ์สไตล์การจับจ่ายใช้สอยของเราได้ดีขึ้น   

คุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับการสมัครบัตรเครดิตควรมีอะไรบ้าง

สำหรับวิธีสมัครบัตรเครดิตนั้นเราควรเช็กดูคุณสมบัติคร่าว ๆ ของเราเองเสียก่อนว่าจะสามารถสมัครบัตรเครดิตได้ไหม เริ่มจากรายได้รวมเริ่มต้นของเรานั้นเกิน 15,000 บาทหรือไม่ ถ้าเกินก็มีสิทธิสมัครบัตรเครดิตได้เกินครึ่งแล้ว ซึ่งจะมีสิทธิ์ได้รับวงเงินในบัตรถึง 1.5 เท่าของรายได้เฉลี่ยต่อเดือนเลยทีเดียว หากมีรายได้ที่มากขึ้นทางบริษัทก็จะพิจารณาให้วงเงินมากขึ้นกว่าเดิม 2-3 เท่าอีกด้วย ต่อไปก็เช็กในเรื่องของอายุถ้าเรามีอายุระหว่าง 20-80 ปี ก็จะสามารถทำบัตรเครดิตธนาคารได้ สำหรับการทำบัตรเครดิตออนไลน์นั้นโดยส่วนมากทางธนาคารจะให้กรอกข้อมูลส่วนตัวที่หน้าเว็บไซต์แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าทําบัตรเครดิตใช้อะไรบ้างก็เพียงแค่สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, เอกสารแสดงรายได้ โดยเริ่มต้นนั้นให้เรากรอกข้อมูลส่วนตัวคร่าว ๆ ที่หน้าเว็บไซต์ไปก่อน แล้วจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับเพื่อดำเนินเรื่องต่อไปว่าอยากได้เอกสารอะไรเพิ่ม ซึ่งถือว่าปี 2566 นี้ถือว่าเป็นปีที่สมัครบัตรได้สะดวกขึ้นเพราะถ้าเราต้องเดินทางไปที่สาขาของธนาคารนั้นก็ค่อนข้างเสียเวลาในการเดินทางเป็นอย่างมากนั่นเอง การทำผ่านออนไลน์สะดวกกว่าก็จริงเราก็ควรตรวจสอบเว็บไซต์เพิ่มเติมด้วย ว่าได้เข้าหน้าเว็บไซต์ที่ถูกต้องหรือไม่เพื่อจะได้ไม่โดนพวกมิจฉาชีพหลอกลวงซ้ำนั่นเอง แล้วเราควรเลือกบัตรเครดิตธนาคารไหนดีก็สามารถเลือกได้ทุกธนาคารตามที่เราต้องการ เพื่อให้แน่ใจเราลองอ่านดูในส่วนของรายละเอียดบัตรของแต่ละธนาคารเปรียบเทียบกันดูว่าสไตล์แบบเรานั้นควรจะมีลักษณะการใช้งานบัตรธนาคารไหนดีที่จะเหมาะสมกับตัวเราเองมากที่สุด

Scroll to Top